เว็บอะรัยดีช้อป

เว็บอะรัยดีช้อป
http://www.webaraideeshopping.com/
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Rabbit Card แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Rabbit Card แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2555

BTS ประกาศยกเลิกบัตรโดยสาร Smart Pass!! เปลี่ยนมาใช้บัตร Rabbit แล้ว

บริษัท ขนส่งมวลชนกรุงเทพจำกัด (มหาชน) หรือรถไฟฟ้า BTS  ได้ติดประกาศข่าวสำคัญคือยกเลิกจำหน่ายบัตรโดยสารเติมเงิน (Smart Pass) และเปลี่ยนมาใช้บัตร Rabbit แทนบัตรโดยสารเติมเงิน (Smart Pass) ทุกประเภท
บัตร Rabbit นี้ เป็นบัตรที่สามารถใช้ร่วมกันได้ทั้งรถไฟฟ้า BTS และรถไฟใต้ดิน MRT และร้านค้าอื่นๆในอนาคตซึ่งได้เคยนำเสนอในบทความก่อนหน้านี้แล้ว และกำลังจะเริ่มดำเนินการทดลองใช้บัตร Rabbit จริงในอีกไม่กี่วันนี้

ผู้ที่มีบัตร BTS Smart Pass ประเภท 30 วัน จะยุติการจำหน่ายบัตรวันที่ 23 เมษายนนี้ และสามารถมาเปลี่ยนเป็นบัตร Rabbit ได้ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายนนี้เป็นต้นไป  และ บัตร BTS Smart Pass แบบเติมเงิน จะยุติจำหน่ายบัตรวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ และ สามารถเปลี่ยนเป็นบัตร Rabbit ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ เป็นต้นไป โดยสามารถเปลี่ยนบัตรได้ที่สถานีรถไฟฟ้า BTS ทุกสถานี  


สำหรับผู้ที่จะสมัครใหม่นั้นก็จะเปิดจำหน่ายบัตรใหม่ เป็นบัตร Rabbit ที่สถานีรถไฟฟ้า BTS ทุกแห่ง  เริ่มวันที่ 23 เมษายนนี้ เป็นต้นไป ส่วนผู้ที่เป็นสมาชิกหนูด่วนพลัส ที่ลงทะเบียนยืนยันสิทธิ์กับแครอท รีวอร์ดส ทางอินเตอร์เน็ตไว้ บัตร Rabbit จะเริ่มทยอยส่งทางไปรษณีย์ถึงบ้าน ในวันที่ 28 เมษายนนี้

ข้อมูลจาก BTS ,  Facebook Carrot Rewords 
ที่มา www.it24hrs.com




วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2555

ทิปการปรับแต่ง Safari บน iPad ให้ตามใจเรา

คุณอาจเป็นคนหนึ่งที่ต้องการปรับแต่งการใช้งาน Web Browser? Safari บน iPad ให้ถูกใจคุณ เช่น คุณจะสังเกตว่า เวลาเปิดโปรแกรม Safari ด้านบนจะพบหน้าต่างเล็กๆ ด้านบน ขวามือ ช่วยการค้นหาข้อมูลจาก Search Engine ซึ่งปกติจะเป็น Google แต่ถ้าคุณต้องการให้เปลี่ยนเป็น Yahoo ก็ทำได้ไม่ยาก นอกจากนี้ยังมีเคล็ดลับอื่นๆ อีกครับที่จะมาบอกต่อๆ กัน

  1. ปรับแต่ง Search Engine บน iPad
  2. แตะเลือกหัวข้อ Settings
  3. แตะไอคอน Safari
  4. แตะคำว่า Search Engine ?จะพบ Web Search Engine ให้เลือก 3 เว็บคือ Google, Yahoo! และ Bing เลือกตามชอบใจได้เลย
  5. ถ้าต้องการถอยกลับมาหน้าเดิม ให้แตะไอคอนด้านบนชื่อ Safari
  6. ทำความรู้จัก AutoFill
    หัวข้อนี้จะเป็นเรื่องของการกรอกฟอร์มบนอินเตอร์เน็ต ถ้าเราต้องการให้โปรแกรมกรอกให้อัตโนมัติไม่ว่าจะเป็นชื่อที่อยู่ หรือแม้กระทั่งรหัสผ่าน ก็สามารถเลือกหัวข้อนี้ และสั่งให้ ON ได้ครับ นอกจากนี้การกรอกรายละเอียดในส่วนต่างๆ สามารถนำข้อมูลจาก Contact มาใส่ให้อัตโนมัติได้อีกด้วย
  7. หัวข้อ Fraud Warning
    แนะนำให้เปิด ON ไว้เสมอ เพราะโปรแกรมจะคอยตรวจสอบเว็บที่เข้าไปให้ว่า เป็นเว็บที่มีลักษณะหลอกลวงหรือไม่ ถ้าใช่ จะมีการเตือนให้เราทราบ เพื่อเป็นการป้องกันก่อน
  8. JavaScript
    แนะนำให้ ON เสมอ เช่นกัน เพราะไม่อย่างนั้น หลายๆ เว็บทีเราเข้าไป จะมีปัญหาแสดงไม่สมบูรณ์
  9. Block Pop-ups
    ปัจจุบัน เราสามารถสั่งให้ OFF ได้ เพราะเว็บส่วนหนึ่งก็ยังมีข้อมูลบางอย่างที่แสดงแบบ Pop-ups เหมือนกัน อันนี้ต้องแล้วแต่ความพอใจครับ
  10. Accept Cookies
    แนะนำให้เลือก From visited ครับ
  11. Database
    ไม่ต้องปรับเปลี่ยนก็ได้ครับ
ที่มา http://www.it-guides.com/

วันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2555

วิธีการเปลี่ยน Facebook Timeline เป็นโปรไฟล์แบบเก่าด้วย TimeLineRemove


กระแสเรื่อง Facebook Timeline แบบใหม่ยังคงมีเสียงบ่นจากผู้ใช้เฟซบุ๊กอยู่เป็นระยะ ๆ และยังมีผู้ใช้อีกจำนวนไม่น้อยที่กำลัง
ค้นหาวิธีการปิดหรือยกเลิก Facebook Timeline ให้เปลี่ยนกลับไปเป็นโปรไฟล์แบบเก่า ในแบบที่คุ้นเคย ซึ่งในความเป็นจริง
Facebook Timeline นั้นไม่สามารถยกเลิกกลับไปเป็นแบบเดิมได้ แต่ก็ยังพอมีทางออกให้สำหรับผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ไม่ชอบ Facebook
Timeline เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้งาน Facebok Timeline อยู่บ้าง ด้วยการใช้โปรแกรมเสริม (Extension) ติดตั้งลงบนเว็บเบราว์เซอร์
ที่ใช้งาน สำหรับ Extension ตัวนี้มีชื่อว่า TimelineRemove (ใช้ได้เฉพาะ Facebook Timeline เท่านั้น ไม่มีผลต่อ Facebook Pages แบบ Timeline)

     TimelineRemove เป็นโปรแกรมเสริม (Extension) สำหรับเว็บเบราว์เซอร์ โดยรองรับการใช้งานบน Firefox, Google Chrome และ Internet Explorer ซึ่งหน้าที่ของ Extension ตัวนี้ คือเปลี่ยน Facebook Timeline ให้กลับมาแสดงผลเป็นโปรไฟล์แบบเก่า
ทั้งของตัวผู้ใช้งานเองและโปรไฟล์ของเพื่อน ๆ โดยไม่จำเป็นต้องตั้งค่าอะไรให้ยุ่งยาก มาติดตามวิธีการติดตั้ง TimelineRemove กันเลยครับ

  วิธีการติดตั้ง TimelineRemove เพื่อเปลี่ยนเป็นโปรไฟล์แบบเก่า
1.ให้เปิดโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ที่ต้องการติดตั้ง TimelineRemove

2.จากนั้นคลิกดาวน์โหลด TimelineRemove ตามเว็บเบราว์เซอร์ที่ใช้งาน

                              http://www.timelineremove.com/download/TimeLineRemoveFF.xpi

                                 http://www.timelineremove.com/download/TimeLineRemove.crx

                           https://timlineremove.googlecode.com/files/TimeLineRemove-0.5.zip
(Unzip เพื่อแตกไฟล์ จากนั้นดับคลิกไฟล์  TimelineRemove.exe เพื่อติดตั้ง  รองรับ Internet Explorer 8,9,10)
(ทางทีมงานกระปุกดอทคอมได้ตรวจสอบแล้ว Timeline Remove ไม่ใช่ไวรัส มัลแวร์หรือสปายแวร์และปลอดภัย 100%)

3. เริ่มติดตั้ง Extension ลงในเว็บเบราว์เซอร์โดยจะมีหน้าต่างแสดงเตือนการติดตั้ง จากนั้นให้คลิกปุ่ม Install เพื่อติดตั้ง Extension

4. เมื่อติดตั้งเสร็จเรียบร้อย ให้ปิดเว็บเบราว์เซอร์และเปิดเบราว์เซอร์ใหม่อีกครั้ง จากนั้นให้เข้าเว็บ Facebook แล้วไปยังหน้าโปรไฟล์ของผู้ใช้งาน จะเห็นได้ว่าหน้าโปรไฟล์ถูกเปลี่่ยนกลับไปเป็นโปรไฟล์แบบเก่า แถมยังแสดงผลได้ดี 100% อีกด้วย


อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ไม่ได้เป็นการยกเลิก Facebook Timeline แบบถาวร แต่เป็นเพียงวิธีการซ่อน Facebook timeline ให้กลับเป็นแบบเก่าเท่านั้น โดยผู้ใช้งานที่ติดตั้ง TimelineRemove เท่านั้น ที่จะเห็นเป็นโปรไฟล์แบบเก่า หากผู้ใช้งานคนอื่น ๆ ไม่ได้ติดตั้ง TimelineRemove ก็จะเห็นหน้าโปรไฟล์ของเราเป็นแบบ Facebook Timeline เหมือนเดิม ข้อดีของ TimelineRemove คือเมื่อติดตั้งแล้ว ไม่ใช่เห็นเฉพาะโปรไฟล์ของตัวเองเป็นแบบเก่า แต่ยังเห็นโปรไฟล์ของเพื่อน ๆ เป็นแบบเก่าอีกด้วย แต่ ข้อด้อยคือ TimelineRemove ยังไม่รองรับการแสดงผล Facebook Pages Timeline แบบใหม่


วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555

Phishing เว็บปลอมเป็นเว็บธนาคาร หลอกขโมยข้อมูลสำคัญ ใช้ทำธุรกรรมการเงิน online

UPDATE : เมื่อช่วงเช้าวันที่ 5 เมษายน ฟิชชิง ระบาดอีกครั้ง!! มาพร้อมหน้าเว็บปลอมซึ่งเหมือนจริงมากขึ้น ในขณะที่ผู้ใช้ iPad และสมาร์ทโฟนมีโอกาสเสี่ยงสูงมากที่จะถูกหลอกจากเว็บฟิชชิง เพราะไม่มีแจ้งเตือนเว็บฟิชชิงบน TABLET และ สมาร์ทโฟน 
เตือนภัย!! สำหรับผู้ใช้บริการธนาคารบนอินเตอร์เน็ตหรือ e-banking ให้เพิ่มระมัดระวังในการเข้าชมและการทำธุรกรรมการเงินผ่านทางออนไลน์ต่าง หลังจากไม่กี่วันที่ผ่านมา ทีมงาน..ได้รับเมล์หลอกว่าเป็นของธนาคารชื่อดังธนาคารหนึ่งของไทย เพื่อหวังจะให้ผู้ที่เปิดอ่านเมลล์นี้ คลิกและกรอกใส่ username และ password ซึ่งมีความเสี่ยงถูกขโมย username และ password มาใช้ธุรกรรมการเงิน  ซึ่งลักษณะการหลอกลวงแบบนี้เรียกกันสั้นๆว่า ฟิชชิง (Phishing) นี่เอง


ลักษณะอีเมลล์ Phishing ที่เราได้รับนี้ เนื้อหาเมลล์อ้างว่ามาจากธนาคารหรือสถาบันการเงินแห่งหนึ่งของไทย (แต่เป็นธนาคารที่ไม่ได้สมัครไว้ ) บอกว่า “บัญชีผู้ใช้บริการ E-Banking ของคุณถูกระงับการใช้งาน หากต้องการให้สามารถใช้งานได้ปกติ ให้ใส่ username และ password ยืนยันข้อมูลและเปิดใช้งานบัญชีปกติ” ตอนนี้ทีมงานถึงกับงง เพราะไม่ได้สมัครตามที่ธนาคารอ้างเลย   ทั้งนี้ในจดหมายเมลล์ดังกล่าวมีลิงค์ให้คลิกด้วย เลยลองคลิกเข้าไปดู

ก็พบหน้ากรอก username และช่องใส่ password  ถึง 2 ครั้งดังรูปข้างบนนี้    เลยพอเดาได้ว่าหากเผลอหลงกรอกเข้าไปตามข้อมูลที่เป็นจริงแล้วคลิก NEXT   ผู้ร้ายก็ได้ข้อมูลสำคัญไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Usermame และ password !  และนำข้อมูลของเหยื่ออาจนำไปถอนเงินออนไลน์ ชำระสินค้าออนไลน์ได้
ถึงแม้ว่าเว็บบราวเซอร์รุ่นใหม่ส่วนใหญ่ สามารถกรองเว็บPhishing ได้ แต่จากที่ทีมงานได้ลองกับเว็บไซต์ Phishing ดังกล่าวนี้แล้ว เว็บบราวเซอร์ไม่สามารถช่วยกรองได้ และยังแสดงหน้าเว็บไซต์ธนาคารปลอมให้กรอกชื่อและรหัสผ่านอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้แจ้งเตือนว่าเป็น Phishing แต่อย่างใด ยิ่งทำให้ผู้ใช้บริการธุรกรรมออนไลน์ที่ไม่รู้ทันภัย Phishing นี้ มีความเสี่ยงที่จะมีโอกาสตกเป็นเหยื่อเว็บปลอมเหล่านี้ได้มากขึ้น งานนี้เสียหายทั้งลูกค้าที่ใช้บริการธนาคาร และกระทบถึงทางธนาคารที่ถูกอ้างในอีเมลล์ด้วย


เมื่อรู้ว่าเราถูกหลอกเผลอใส่ username และ password ตกเป็นเหยื่อของเว็บไซต์ปลอมแล้ว ทำอย่างไร ?
ให้รีบไปติดต่อไปยังธนาคารโดยด่วน ผ่านโทรศัพท์สายด่วนของธนาคาร หรือที่ธนาคารโดยตรง เพื่อรีบเปลี่ยน Password ใหม่ หรือ อายัดบัตร อายัดบัญชี ไม่ให้คนร้ายทำธุรกรรมการเงิน หรือถอนเงินบัญชีของเราไปได้

วิธีป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของ Phishing

  1. ตรวจสอบว่าคุณได้เปิดบัญชี  และ Internet Banking ของธนาคารอะไรบ้าง หากคุณไม่ได้เปิดบัญชีธนาคารตามที่เมลล์แจ้ง พึงระลึกไว้เสมอว่าอาจเป็นฟิชชิ่ง
  2. จำไว้เสมอว่า…..  “ไม่มีธนาคารสักรายเดียวที่จะสอบถามข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลชื่อบัญชี และรหัสผ่านของเรา ผ่านทาง e-mail”
  3. พิมพ์ URL เข้าเว็บไซต์ธนาคาร ด้วยตัวของท่านเองอย่าเชื่อลิงค์ที่ให้ผ่านทางอีเมลล์
  4. อย่าตอบเมลล์กลับไปยัง Phishing e-mail ให้ลบ e-mail นี้ทิ้งไป 
  5. ช่วยกันเป็นหูเป็นตา…. หากพบ e-mail ที่น่าสงสัยว่าแจ้งเตือนโดยธนาคารนี้จริงหรือไม่  ให้ติดต่อ ธนาคารที่ถูกอ้าง เพื่อให้ทางธนาคารตรวจสอบว่า e-mail ฉบับนั้นๆแจ้งเตือนโดยทางธนาคารจริงหรือไม่ หรือใช่เว็บธนาคารหรือไม่  ถ้ามีข้อมูลว่าเป็น Phishing จริง หรือเว็บปลอมจริงๆ โปรดแจ้งทางธนาคารได้รับทราบ เพื่อเตรียมหลักฐานตามจับกุมดำเนินคดีกับผู้ทำเว็บปลอม
  6. หากรู้ตัวว่าเว็บไซต์นี้เป็นเว็บ Phishing ให้ทำการ copy url ที่อยู่เว็บไซต์นี้มา แล้วเข้าเว็บไซต์ whois.com แล้ววางที่อยู่ url เว็บที่น่าสงสัยว่าจะเป็น Phishing  เพื่อตรวจสอบข้อมูลว่าเว็บนี้จดทะเบียนโดยใคร ซึ่งอาจได้ทราบชื่อเจ้าของเว็บปลอมได้
  7. ควรติดตั้งโปรแกรมรักษาความปลอดภัยพวก Personal Firewall โปรแกรม Antivirus  หมั่นอัพเดตให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดอยู่เสมอ และหมั่นสแกนตรวจสอบไวรัสคอมพิวเตอร์บ่อยๆด้วย
เพียงเท่านี้คุณก็จะรอดพ้นและรู้ทันจากพวกอีเมลล์ฟิชชิ่งหลอกลวง และ เว็บไซต์ธนาคารปลอม อย่างไรก็ตามเวลาใช้อินเตอร์เน็ตในด้านธุรกรรมการเงินการธนาคารผ่านทางออนไลน์ ควรระมัดระวังและตรวจสอบเว็บไซต์ก่อนพิมพ์กรอกข้อมูลทุกครั้ง 

ที่มา it24hrs.com

วันจันทร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2555

มารู้จัก Rabbit Card พกบัตรเดียว โดยสารร่วม BTS และ MRT

สำหรับใครโดยสารรถไฟฟ้าทั้ง  BTS และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT คงจะเคยมีคำถามในใจว่า ทำไมจะต้องพก 2 บัตรคือ บัตรรถไฟฟ้า BTS และบัตรรถไฟฟ้า MRT แถมมีบางครั้งก็หยิบบัตรผิด ต่อไปนี้จะถือบัตรเดียวคือ Rabbit Card ซึ่งเป็นบัตรร่วมโดยสาร BTS และ MRT
สำหรับบัตรโดยสารร่วม Rabbit Card สามารถใช้เดินทางร่วมเส้นทางรถไฟฟ้า BTS และ MRT สามารถโดยสารต่อรถได้ตามจุดต่อรถที่มีเส้นทางร่วมกัน และยังสามารถใช้ซื้อสินค้าและบริการ รวมไปถึงการสะสมคะแนนผ่าน Carrot Rewards โดยบัตร Rabbit Card นี้ ส่วนการออกบัตรโดยสาร สามารถออกบัตรได้จากช่องจำหน่ายบัตรโดยสารตามปกติ แต่ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงทดลองใช้บริการ

โดยในช่วงแรก ได้มีการเปิดทดลองใช้สำหรับบริษัทในเครือของ BTS, BMCL, BBL (ธนาคารกรุงเทพ) VGI และ BSS ก่อน และล่าสุดได้ทดลองเปิดให้บริการกับผู้โดยสารรถไฟฟ้า BTS ที่เป็นสมาชิกหนูด่วนพลัส สามารถรับบัตรโดยสารร่วม Rabbit Card Limited Edition ได้ก่อนใคร ส่วนเรื่องคะแนนสะสมหนูด่วนพลัสนั้นได้สิ้นสุดลงในวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา และยังใช้คะแนนสะสมเดิมโอนมาใช้บน Carrot Rewards แทน โดยสามารถลงทะเบียนที่ Carrot Rewards ได้ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2555 เวลา 12.00 น. ถึงวันที่ 30 เมษายน 2555 และจะได้รับบัตร Rabbit Card Limited Edition โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ส่วนผู้ใช้ทั่วไปสามารถใช้งานได้ในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ (ข้อมูลจาก Call Center บัตร โดย twitter @indsm)

ข้อมูลจาก BTS
www.it24hrs.com

บทความที่ได้รับความนิยม 10 อันดับ