ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัย และสถาบันชั้นนำอย่าง "แมสซาชูเซตส์ อินสทิทิวท์" และศูนย์วิจัยการตลาด "ดาร์ทเมาท์" ระบุว่า เครื่องมือโซเชียล มีเดียอย่าง "ทวิตเตอร์" มีผลอย่างมากกับการทำการตลาดออนไลน์ คิดเป็นกว่า 61% ของบริษัทในกลุ่ม "ฟอร์จูน 500" อย่าง เป๊ปซี่ อีเอสพีเอ็น (ESPN) ที่หันมาใช้ทวิตเตอร์ทำการตลาดออนไลน์มากกว่าสื่อโซเชียลใดๆ บนหน้าเว็บไซต์
เว็บ ไซต์ "บล็อกกิ้งทิปส์" เผยถึงเหตุผลที่ยืนยันว่า ทวิตเตอร์ คือ ที่สุดของ "มาร์เก็ตติ้ง แพลตฟอร์ม" ไว้ กล่าวโดยสรุปได้ดังนี้ 1. หากลองถามผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด มักจะได้คำแนะนำว่าสิ่งสำคัญที่ควรมี คือ "เฮดไลน์" ที่ดีๆ สักอัน ซึ่งทวิตเตอร์ก็คือแพลตฟอร์มที่เล่นกับการจั่วหัว และการสื่อสารด้วยข้อความสั้นๆ เหล่านี้ รวมถึงยังช่วยโฟกัสไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ดี สามารถโต้ตอบสร้างสัมพันธ์เพื่อผูกใจทางการตลาดได้
2. สถิติผู้ใช้ทวิตเตอร์จะเป็นพวกเกี่ยวกับธุรกิจ และเป็นมืออาชีพมากกว่า ทำให้ทวิตเตอร์เป็นตัวเลือกแรกๆ ในการที่ผู้ใช้จะเข้าไปหาองค์กร หรือหน่วยงานภาคธุรกิจต่างๆ ตามคำกล่าวของ "โซเชียล ทวิสต์" บริษัทที่ปรึกษาด้านไวรัลมาร์เก็ตติ้งบนโซเชียลมีเดีย 3. ทวิตเตอร์เป็นแพลตฟอร์มเปิด ที่เอื้อให้หน่วยธุรกิจเข้าไปทำตลาดอย่างเต็มตัว ไม่มีข้อห้าม หรือข้อบังคับที่รัดกุมใดๆ เราสามารถติดต่อ หรือเมนชั่น (mention) ถึงผู้ติดตามหรือบุคคลใดๆ ได้โดยตรงโดยไม่ต้องคำนึงถึงปัญหาด้านความปลอดภัย
4. การที่ต้องคุย-ทวีตเมนชั่นหากันแบบรวบรัด สร้างความกระชับในการสื่อสารกับกลุ่มผู้ติดตาม โดยเฉพาะการทวีตข้อความโปรโมชั่น ประชาสัมพันธ์อีเวนท์ต่างๆ ได้ง่ายดาย เช่นกันกับการส่งต่อด้วยการ "รีทวีต" ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายเพียงคลิกเดียว
5. ทวิตเตอร์ช่วยสร้าง “ทราฟฟิก” ให้เว็บไซต์หลัก โดยการทวีตข่าวสารอัพเดทใหม่ๆ จากหน้าเว็บไซต์หลักของแต่ละองค์กร เหมือนเป็นการ "เชิญชวน" ให้ผู้ติดตามรับรู้และเข้ามาดูรายละเอียดต่อในหน้าเว็บไซต์ โดยเฉพาะการทวีตข้อความประกาศประกวด รับสมัครงาน ลดราคา ฯลฯ แล้วใส่ลิงค์ไปยังหน้าเว็บไซต์ของเรา ก็ยิ่งเพิ่มยอดเข้าชม และทำให้ผู้ใช้ทั่วไปทำความรู้จักกับเว็บไซต์หลักของเราได้ด้วย 6. ทวิตเตอร์สามารถใช้งานร่วมและข้ามแพลตฟอร์มได้อย่างง่ายดาย ผ่านทางการกด "แชร์" บนหน้าเว็บไซต์ใดๆ หรือทำให้หน้าตาทวิตเตอร์ไปปรากฏบนหน้าเว็บไซต์หรือสื่ออื่นๆ ก็ได้เช่นกัน ทำให้ผู้ใช้เห็นความเคลื่อนไหวขององค์กรเราผ่านช่องทางต่างๆ ไปได้พร้อมกัน
7. ทวิตเตอร์เพียงหนึ่งแอคเคาน์ สามารถค้นหาบทสนทนาของผู้ใช้ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราได้อย่างอิสระ ทำให้สามารถรับรู้และแอบฟังฟีดแบ็คจากปากผู้ใช้อย่างแท้จริงได้ โดยเฉพาะการใช้ "แฮชแท็ก" ที่ตั้งขึ้นมากำหนดหัวข้อของทวีตให้ง่ายต่อการค้นหาหรือติดตามประเด็นนั้นๆ บนไทม์ไลน์ได้อย่างเป็นระเบียบตามลำดับเวลา 8. บนทวิตเตอร์มีการจ้าง "เซเลบ" ทั้งเซเลบบนโลกจริง และในโลกออนไลน์ การทำการตลาดเพื่อสร้างเทรนด์หรือการโฆษณาแฝงไปกับทุกทวีตของบุคคลเหล่านี้ ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก และพร้อมที่จะถูกรีทวีตต่อเสมอๆ
สำหรับ นักการตลาด คงจะมองผ่านทวิตเตอร์ไปไม่ได้แล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องยากเย็นสักนิดสำหรับการ "ล่ายอดผู้ติดตาม" ให้ได้ถึงตัวเลขหลักที่น่าพอใจ ขณะที่การทวีตอย่างมีสาระ สม่ำเสมอ ถูกต้องครบถ้วน ชัดเจน และให้ระบุที่มาของข้อมูล ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมุ่งมั่นปฏิบัติควบคู่ไปกับกลยุทธ์ทางการตลาดของ องค์กร ส่งผลให้แบรนด์ "มีที่ยืน" บนทวิตเตอร์ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
ที่มาและภาพประกอบ http://www.bangkokbiznews.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น