ปัจจุบัน เชื่อว่าผู้ใช้แต่ละคน มีกลุ่มเพื่อนบน Social Network ที่แตกต่างกัน และหนึ่งคน ก็อาจจะมี Social Network หลายเครือข่าย และแยกกลุ่มในการติดต่อสื่อสาร ทั้งการติดต่อกับเพื่อนเก่าบน Facebook การโพสข้อความบน Micro-blogging อย่าง twitter และยังมี Social Network อื่นๆ อย่าง Path, FourSquare, Instagram และอีกหลายๆเครือข่ายสังคมออนไลน์ เราจับมาประเด็นที่น่าสนใจมาเล่าเรื่องราวผ่าน Storify กันไหม
บางครั้งเราอยากจะโพสเรื่องราวต่างๆบน Facebook เพราะอยากจะให้เพื่อนในกลุ่มที่เราที่ทำงานด้วยรู้ หรือให้เพื่อนในกลุ่มได้รู้ผ่าน twitter หรือจะกระชับวงในบน Google+ ลองคิดดูสิว่า วันหนึ่งๆคุณอัพเดตอะไรบน Social Network บ้าง Storify ให้บริการภายใต้สโลแกน “Social Storytelling” เป็นการสร้าง Story จากโพสที่เราโพสขึ้นไปบน Social Network ต่างๆ ให้คนที่สนใจได้ติดตามบน Storify ของเรา
บริการจาก Storify ให้คุณรวบรวมเรื่องราวต่างๆบน Social Network ของคุณมาเล่าเป็นเรื่องราว และบรรยายเป็นเรื่องราวให้ติดตามผ่านเว็บไซต์ โดยจะเหมือนเป็นการสร้างบล็อก วิธีง่ายๆให้เราสร้างเรื่องโดยการดึงเอาโพสที่น่าสนใจของคุณจาก Social Network เพื่อสร้างการบอกเล่าให้น่าสนุกและน่าติดตาม คุณสามารถร้อยเรียงเรื่องราวของคุณได้เอง โดยใช้ข้อมูลจาก Social Network นี่แหล่ะ
โดยใน Storify editor คุณสามารถค้นหาข้อมูลต่างๆจาก social media ในเครือข่ายต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องราวที่คุณกำลังบอกเล่า ไม่ว่าจะเป็นการดึงข้อมูลจาก Twitter, Facebook, YouTube, Flickr, Instagram และเครือข่ายอื่นๆ เพื่อรวมรวบมาเล่าเป็นเรื่องราวของคุณเอง ถ้าเป็นข้อความที่มีคนพูดถึงคุณ ก็จะยกมาทั้งข้อความเพื่ออ้างอิงเจ้าของโพสด้วย วิธีการง่ายๆในการสร้าง Storify ของคุณ โดยการลากข้อความที่สนใจจาก Social Network ด้านขวา มาวางทางด้านซ้ายซึ่งเป็น Storify ของเรา นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มเติมข้อความบรรยายภาพหรือโพสนั้นๆได้ด้วย
บริการนี้ไม่ได้เป็นการดึง Feed ของ Social Network มาแสดง แต่จะใช้เป็นองค์ประกอบในการเล่าเรื่องโดยยึดตาม Topic ทั้งการนำเอาสถานะที่โพส รูปภาพ หรือวีดีโอมาใช้ในการเล่าเรื่อง ฟังดูเหมือนกับการเขียนบล็อกใช่ไหมล่ะ ลองคิดในหัวก่อนโพส ว่าเราจะเขียนเรื่องอะไรก็นำเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นมาใส่ เป็นการนำองค์ประกอบต่างๆของเนื้อหามาบอกเล่าเรื่องราว ทำให้เรื่องราวของคุณน่าสนใจขึ้น และยังสามารถแก้แต่งแก้ไขเรื่องราวที่คุณสร้างได้ด้วย รวมไปถึงหากมีการอัพเดตเพิ่มเติมก็แก้ไขได้อีกในภายหลัง
นอกจากนี้ถ้าอยากจะแต่งเติมเนื้อหาให้เข้มข้นน่าสนใจมากขึ้น ก็สามารถนำเอา Embed Code มาแปะได้ ทั้งบนบล็อกของ WordPress และ Drupal หรือจะโพสลง Tumblr หรือ Posterous หรือแม้แต่ส่งอีเมล์เป็น Newsletter ได้ด้วย Mailchimp
และเรายังสามารถแชร์ให้กับเพื่อนๆ หรือ Mention ที่เพื่อนพูดถึงเราใน Storify ของเราได้อีกด้วย
ลองสร้าง Storify
ขั้นแรกคือการสมัคร โดยใช้ Social Network ของเรา ใช้ twitter หรือ facebook สมัครก็ได้
จากนั้นเลือก username ซึ่งจะได้เป็น URL http://storify.com/username ของคุณ
เราสามารถสร้าง Storify ของเราเองได้ โดยการนำเอา Quote ของ Social Network ที่เราใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Youtube, Instagram, Flickr, Google+ หรือนำ Embed HTML Code มาใช้เป็นองค์ประกอบในการบอกเล่าเป็นเรื่องราว
แต่ถ้าใครไม่ได้ทวิต ไม่ได้โพสอะไรมาก (หรือไม่รู้จะโพสอะไร) แต่อยากจะทำ Storify ก็สามารถทำได้โดยการติดตั้ง Storify Bookmarklet บน Google Chrome Extension เพื่อกดเพิ่มเนื้อหา Quote ข้อความที่เราสนใจ หรือภาพถ่ายก็ได้เช่นกัน
บริการ Storify ถือเป็นบริการที่น่าสนใจและสามารถใช้ได้ทุกคน รวมไปถึงสามารถนำมาใช้บอกเล่าเรื่องราว และเป็นไดอารี่ บอกเล่าว่า วันไหนเราไปงานไหน ไปที่ไหนบ้าง และมีอะไรที่เราประทับใจ
สำหรับ Storify นั้นเคยได้รับการจัดอันดับ 40 จาก 50 เว็บไซต์ที่ดีที่สุดของปี 2011 คุณสามารถติดตาม Storify ผ่านทาง Twitter และ Storify ของบริการเอง นอกจากนี้ยังมีแอพ Storify บน iOS ด้วย
ติดตาม Co-founded ของ Storify ได้ที่
ข้อมูลจาก Storify เรียนรู้เพิ่มเติม
ที่มา http://www.it24hrs.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น