ปี2555จบปีแห่งการรอคอย
1.สรุปได้ซะที 3จี ประเทศไทย
ต้องยอมรับว่านี่คือมหากาพย์ของแท้ที่ทำให้ประเทศไทยล่าช้ากว่าประเทศอื่นๆ
ในการเปิดให้บริการ 3จี จากเดิมที่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ
กทค.มีกำหนดจะประมูลคลื่นความถี่ตั้งแต่3 ปีก่อน
ในที่สุดคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์
และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ก็สามารถทำได้สำเร็จในปีนี้
แม้จะมีการฟ้องร้องทั้งศาลปกครอง ผู้ตรวจการแผ่นดิน รัฐสภาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และมีประเด็นที่ดูแล้วอาจยังไม่ชัด 100% แต่จนเมื่อต้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา กสทช.ก็สามารถจบกระบวนการประมูลคลื่นความถี่2.1 กิกะเฮิรตซ์ได้สำเร็จ และได้มอบใบอนุญาต(แบบลับๆ) ให้กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมการประมูลทั้งสามราย ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนเอไอเอส ดีแทค และ ทรู นั่นเอง กสทช.คงจะโล่งอก แม้จะไม่สามารถตอบคำถามสังคมได้ชัดเจนว่าการเริ่มต้นเงินประมูลที่ต่ำเกินไป แต่ก็ทำให้ประชาชนได้ 3จี เป็นของขวัญปีใหม่
2.ไอโฟน 5-โน้ต 2 ถล่มมือถือ สำหรับสถานการณ์ในตลาดสมาร์ตโฟนที่คาดการณ์กันว่ามียอดขายกว่า 5-6 ล้านเครื่องหรือเกือบครึ่งหนึ่งของตลาดรวมทั้งประเทศแล้ว พระเอกที่ยึดครองส่วนแบ่งตลาดไว้ได้อันดับ 1 คือ ไอโฟนเรียกว่า 10 คนเดินมาอย่างน้อย 5 คนต้องใช้ไอโฟน และการเปิดตัวไอโฟน 5 ก็เป็นสัญญาณสำคัญที่แอปเปิลต้องการยกระดับคนที่ใช้ตั้งแต่ไอโฟน 4 ลงไปให้ปรับมาใช้เครื่องรุ่นใหม่ที่รองรับการทำงานได้มากกว่า มีบริการมากกว่า นำไปสู่อีโคซิสเต็มที่สมบูรณ์กว่า แต่ด้วยสไตล์ของแอปเปิล จะต้องวางจำหน่ายเครื่องที่พูดได้ว่า พิการ นั่นคือไม่สามารถทำงานได้ทุกอย่างครบถ้วน เพื่อล่อลวงให้บรรดาสาวกและผู้ใช้ต้องซื้อรุ่นต่อไปอีกอย่างต่อเนื่องซึ่ง ต้องยอมรับว่าแอปเปิลได้ทำให้ไอโฟนกลายเป็นสินค้าฟังก์ชันที่เต็มไปด้วย แฟชั่น
ในอีกฟากหนึ่งคู่แข่งที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับแอปเปิล ได้ก็คงเป็นซัมซุง ที่สร้างนวัตกรรมโดยนำของเก่ามาเล่าใหม่อย่างกาแล็กซีโน้ต 2 ที่นำเอาปากกามาสร้างความแปลกใหม่ให้กับผู้ใช้ในแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เมื่อความสนุกสนานเกิดขึ้นการใช้งานก็ตามมา ที่สำคัญยิ่งกว่าคือ โน้ต2 ได้สร้างประสบการณ์การใช้งานของเครื่องขนาดใหม่ที่ใหญ่กว่าสมาร์ตโฟนแต่เล็ก กว่าแท็บเล็ต ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่าจากคน 10 คนที่ใช้สมาร์ตโฟน ต้องมี 3-4 คนที่ใช้ซัมซุงรวมอยู่ด้วย
3.ไลน์ แอพ แชต โดนใจวัยรุ่น ไลน์ ได้สร้างอีกปรากฏการณ์หนึ่งขึ้นบนโลกของแอพพลิเคชัน ใครเลยจะคิดว่าในโลกของการแชตจะสามารถสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นด้วยตัว การ์ตูนสติกเกอร์และยังต่อยอดเป็นเกมต่างๆ มากมาย ที่เชื่อมโยงกับระบบแชตที่สำคัญสร้างรายได้ให้กับบริษัทต้นสังกัดอย่าง เอ็นเอชเอ็น ได้เป็นกอบเป็นกำ เมื่อก่อนอาจได้ยินวลีติดปากว่า มีไรก็บีบีมานะ หรือวอตส์แอพมาแล้วกัน แต่ปัจจุบันหลายคนพูดกันใหม่ว่า ไลน์มาหาด้วยนะ แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของแอพที่มีต่อผู้ใช้จริงๆ
4.วินโดวส์ 8 เปลี่ยนใหม่ทัชสกรีน ต้องบอกเลยว่า ไมโครซอฟท์พยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมคนใช้คอมพิวเตอร์ ครั้งสำคัญ เมื่อระบบปฏิบัติการวินโดวส์8 ไม่ต้องพึ่งพาคีย์บอร์ดและเมาส์อีกแล้ว แต่ใช้นิ้วไปสัมผัสหน้าจอที่ไม่ได้มีเฉพาะบนแท็บเล็ตเท่านั้น แม้จะมาช้าไปสักนิดและยังไม่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ออกมารองรับเท่าที่ควร แต่ถือเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปีนี้ที่คาดว่าจะส่งผลถึงปีหน้าเพียง แต่ไมโครซอฟท์คงต้องเน้นให้การเรียนรู้กับตลาดมากขึ้น เพราะเมื่อรูปแบบการใช้เปลี่ยนไป ความไม่คุ้นเคยก็เกิดขึ้นเป็นธรรมดา
5.ปีทองแท็บเล็ต ปีนี้เป็นปีทองของแท็บเล็ตจริงแท้แน่นอน คาดว่าปีนี้ปีเดียวแท็บเล็ตมียอดขายในประเทศไทยกว่า 2 ล้านเครื่องโดยเกือบครึ่งหนึ่งอยู่ในตลาดการศึกษานั่นคือ แท็บเล็ตเพื่อการศึกษาของรัฐบาลนั่นเอง ส่วนอีกกว่า 1 ล้านเครื่องอยู่ในตลาดทั่วไป นั่นหมายความว่าไอแพดและไอแพดมินิที่เพิ่งออกมาทำตลาดสามารถกวาดยอดขายได้ มากกว่า 50%อีกแล้ว ส่วนที่ 2 ก็ไม่ใช่ใคร ซัมซุงอีกเช่นเดิม และคาดว่าในปีหน้าที่ วินโดวส์ 8 รวมถึงแอนดรอยด์เจ้าเดิมจะช่วยกระตุ้นตลาดแท็บเล็ตในไทยให้มียอดขายไม่ต่ำ กว่า 3 ล้านเครื่อง
ปี2556แตกต่างแต่ยังไม่ดีกว่า
1. 3จี-4จี หัวใจของการเชื่อมต่อ ฝั่งผู้รับใบอนุญาตทั้งสามรายที่ต่างยื่นขออนุญาตนำเข้าอุปกรณ์โครงข่ายใน ทันทีหลังได้รับใบอนุญาต และคาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จช่วงปลายไตรมาสแรกของปี2556 แต่มีความเป็นไปได้ที่จะเปิดให้บริการได้ก่อนหน้านั้นในเขตกรุงเทพฯก่อน เพราะว่ากันตามจริงแล้วขณะนี้บริการที่ประชาชนได้รับจากผู้ให้บริการมือถือ หลักทั้งสามรายอยู่ในภาวะวิกฤตมากแล้ว ทั้งสายหลุด สัญญาณไม่ดี บริการข้อมูลไม่วิ่ง เนื่องจากคลื่นความถี่เดิมที่ใช้มีช่องสัญญาณจำกัด แต่ด้วยจำนวนผู้ใช้ที่มากขึ้น และต้องแบ่งช่องสัญญาณมาให้บริการทั้งเสียงและข้อมูล อีกทั้ง กสทช.ยังประกาศอีกว่าเตรียมเปิดประมูลคลื่นความถี่สำหรับให้บริการ 4จี ด้วย เป็นความหวังว่าไทยเราอาจจะแซงหน้าประเทศอื่นๆด้านเทคโนโลยีบ้างก็เป็นได้
2.ไอโฟน5เอส-โน้ต3ข่าวลือที่รอคอย ข่าวลือออกมาหนาหูและน่าจะเป็นจริงตามนั้น จากกระแสของเครื่องที่ใหญ่ประมาณ 5-7 นิ้ว ทำให้ไอโฟน 5 เอส(ที่จะออกมาหลังจากไอโฟน 5 วางตลาดสัก6 เดือน) จะมีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานที่มากขึ้น สะดวกขึ้น โดยใช้วิธีเพิ่มความยาวมากกว่าความกว้าง (ถ้ากว้างจะกลายเป็นไอแพดมินิ) และเพื่อเป็นการไม่ยอมแพ้ข่าวลือของซัมซุง กาแล็กซีโน้ต 3 คือ ขนาด 6.3 นิ้ว กำลังจะตามมา ถ้าใครได้ลองใช้งานจะรู้ว่าสมาร์ตโฟนตัวใหญ่นี้เครื่องเดียวอาจแทนที่แท็บ เล็ตได้เลย
3.ไฮบริดโน้ตบุ๊ก ทางเลือกของคนใช้ ในเมื่อวินโดวส์8 มาแล้ว โน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ที่มีลักษณะสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ เช่น ถอดจอออกมาเป็นแท็บเล็ต หมุนจอรอบทิศ กางจอได้ 360 องศา และเป็นหน้าจอทัชสกรีน เรียกได้ว่า ถ้าแอปเปิลทำการแยกอุปกรณ์ออกเป็น แมคบุ๊ก ไอแพด และไอโฟน ไมโครซอฟท์ได้ทำให้วินโดวส์ 8 ผนวกรวมอุปกรณ์บางอย่างเข้าด้วยกันจะไปไหนมาไหนไม่ต้องแบกไปหลายชิ้น
4.โซเชียลคอมเมิร์ซ ซื้อง่ายขายคล่อง โซเชียลเน็ตเวิร์กได้ขยายตลาดทำให้อีคอมเมิร์ซเดิมสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เมื่อไรเมื่อใช้คำว่าโซเชียลคอมเมิร์ซ นั่นหมายความว่าหน้าร้านปกติเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพออีกต่อไป แต่จะต้องมีหน้าเว็บไซต์ แฟนเพจในเฟซบุ๊ก มีรูปถ่ายในอินสตาแกรม ทวีตสินค้าบริการใหม่ๆ ผ่านทวิตเตอร์ รวมถึงการมีช่องทางผ่านสมาร์ตทีวีด้วย และทั้งหมดต้องปรากฏทั้งบนโมบายและออนไลน์ เพื่อความครบถ้วนในการเข้าถึง
5.คลาวด์ส่วนตัวอยู่ในบ้าน ระบบคลาวด์ในบ้านหมายถึงการมีสตอเรจประจำบ้าน จะเริ่มแพร่หลายมากขึ้น การเก็บทุกอย่างจะเป็นระบบไฟล์และทำให้อุปกรณ์บางอย่างลดบทบาทลงไป เช่นเครื่องเล่นดีวีดีหรือเครื่องเล่นบลูเรย์และเมื่อจัดเก็บทุกอย่างเป็น ไฟล์แล้วการจะดึงออกไปใช้งานได้ทุกที่ผ่านอุปกรณ์พกพาโดยการเชื่อมโยงผ่าน โครงข่าย3จี ก็เร็วกว่า
ที่มา.http://www.posttoday.com
โดย...พรหมเมศร์ ศิริสุขวัฒนานนท์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น