ทั้งนี้ซีคัวร์ย่าได้พิสูจน์ออกมาให้เห็นแล้วว่า มีศักยภาพด้านความเร็วมากกว่าเค คอมพิวเตอร์ ของฟูจิตสึถึง 1.55 เท่า และใช้โพรเซสเซอร์มากกว่า 1.5 ล้านตัว อีกทั้งยังกินไฟเพียง 7.9 เมกะวัตต์ ขณะที่เค คอมพิวเตอร์ต้องใช้ไฟถึง 12.6 เมกะวัตต์ เลยทีเดียว
ปัจจุบันเจ้าคอมพิวเตอร์ซีคัวร์ย่า ได้นำมาติดตั้งอยู่ที่ห้องทดลองแห่งชาติ ลอร์เรนซ์ ริเวอร์มอร์ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ภายใต้การดูแลของกระทรวงพลังงาน ซึ่งจะถูกนำมาใช้ในการสร้างแบบจำลองอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อหลีกเลี่ยงการทดสอบจริงในชั้นใต้ดินของผืนโลก ซึ่งอาจส่งผลกระทบข้างเคียงขึ้นมาได้
โดยที่ซีคัวร์ย่า มีความสามารถในการคำนวณข้อมูลเหนือขีดจำกัดได้ภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง ซึ่งเท่ากับเวลา 320 ปี ที่มนุษย์ราว 6.7 พันล้านคน ร่วมกันใช้เครื่องคิดเลขคำนวณอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีหยุด
อย่างไรก็ดี แม้ว่าสุดยอดคอมพิวเตอร์ความเร็วสูงเครื่องนี้ จะช่วยให้สหรัฐอเมริกากลับมาทวงตำแหน่งผู้นำคอมพิวเตอร์ความเร็วสูงได้อีกครั้ง หลังจากที่เสียตำแหน่งอันดับหนึ่งให้กับบริษัทคอมพิวเตอร์ในประเทศญี่ปุ่นไปเมื่อ 2 ปีก่อน แต่เมื่อพิจารณาถึงภาพรวม 10 อันดับแรกของซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ในโลก ปัจจุบันมีอยู่ในสหรัฐอเมริกาเพียง 3 เครื่องเท่านั้น ทั้งที่เมื่อครึ่งปีก่อนมีถึง 5 เครื่องด้วยกัน ส่วนจีนและเยอรมันมีอยู่ประเทศละ 2 เครื่อง ขณะที่ญี่ปุ่น, ฝรั่งเศส และอิตาลีมีประเทศละ 1 เครื่อง
10 อันดับ ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ของโลก (นับถึงเดือนถุนายน 2012)
ข้อมูลจาก
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก geektech.in
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น