ในเมื่อเราได้รู้ประวัติอีเบย์ และที่มาที่ไปกันคร่าวๆแล้ว ท่านผู้อ่านคงอยากจะรู้ว่าการที่เราจะเข้าไปสู่ธุรกิจอีเบย์นั้นต้องทำอย่าง ไรบ้าง และมือใหม่หัดขายนั้นจำเป็นต้องศึกษาและเรียนรู้อะไรบ้าง ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. ต้องสามารถเปิด-รับ-ส่งอีเมลได้ (ตรงนี้สำคัญอย่างยิ่งต่อการสื่อสารระหว่างผู้ซื้อ)
2. ความรู้ภาษาอังกฤษเบื้องต้น ไม่จำเป็นต้องเก่งมาก แค่พื้นฐานอ่าน-เขียนได้ในระดับนึงก็พอ (เว็บไซต์อีเบย์นั้นเป็นการติดต่อระหว่างประเทศดังนั้นจำเป็นต้องใช้ภาษา อังกฤษเป็นหลัก)
3. บัตรเครดิตการ์ดใช้สำหรับในการสมัครเป็นผู้ขายบนอีเบย์ (เนื่องจากการค้าขายในบนอีเบย์นั้นไม่ได้ฟรี มีค่าธรรมเนียมในการวางสินค้าแต่ละชิ้นอยู่)
4. กำหนดแหล่งเสาะหาสินค้าอย่างชัดเจน (เพื่อประโยชน์แก่การหาสินค้าในตอนเริ่มต้น)
5. มีหนังสืออีเบย์ 1 เล่มเพื่อไกด์ไลน์ในการสมัครให้อย่างถูกวิธี (จะได้ไม่ทำผิดกฎบนอีเบย์)
6. มีเพื่อนหรือเว็บไซต์คอยให้คำปรึกษาในการทำธุรกิจอีเบย์ (จะได้ศึกษาเคสการค้าขายต่างๆ เพื่อเป็นความรู้ของท่านได้ป้องกันตัวจากเหตุต่างๆจากการค้าขายบนเว็บไซต์)
วิธีการสมัครบนอีเบย์ไม่ยากมีวิธีการคร่าวๆดังต่อไปนี้
1. เปิดลิงค์ http://www.thaiebayuser.com/u/sgthailand/2. กรอกชื่อ-ที่อยู่-อีเมล ของท่านเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด
3. ตั้งชื่อร้านค้าที่เป็นแบรนของเราที่เหมาะสมกับคุณ
4. เมื่อสมัครเสร็จเข้าไปเขาจะให้เรากรอกเครดิตการ์ด 1 ครั้ง โดยจะเสียเงินราวๆ $1.5 เป็นค่าแรกเข้า เมื่อทำการกรอก ระบบก็จะพาให้คุณกลับเข้าไปยืนยันอีเมลที่ส่งจากอีเบย์
5. หลังจากที่เราเข้าเปิดอีเมลของ eBay และยืนยันเพียงแค่นี้เราก็เป็นสมาชิกอีเบย์เป็นที่เรียบร้อย
สำหรับผู้ขายหน้าใหม่นั้นยังมีอีกส่วนหนึ่งที่ต้องให้มือใหม่ได้รู้และเข้าใจกับระบบที่สำคัญที่สุดบนอีเบย์ก็คือ “Feedback (ประวัติการซื้อ-ขาย)” ระบบนี้เป็นระบบที่เข้มแข็งที่สุดในบนอีเบย์ ในการดูและตรวจสอบว่าผู้ซื้อ-ขายคนไหนที่น่าไว้ใจและซื่อสัตย์กับคุณมากที่ สุด และคนไหนที่มีแนวโน้มน่าจะเป็นโจรมากกว่า โดยสามารถดูประวัติของผู้ซื้อ-ขายเหล่านั้นได้ทันที ลักษณะการให้แต้มนั้นทางอีเบย์เขาจะคำนวณโดยนับจากจำนวนคนซื้อมากกว่าจำนวน ชิ้นสินค้า กฎหลักๆง่ายๆคือ ซื้อ-ขาย 1 คนต่อ 1 แต้ม ที่จะขึ้นปรากฎทุกๆครั้งที่มีการซื้อ-ขายเกิดขึ้นโดยนับเป็นจำนวนรวมทั้ง แต้มซื้อและขาย แต่สำหรับแต้มจำนวนชิ้นนั้นจะนับโดยรวมเข้าไปข้างในทั้งหมด
อีกหนึ่งหัวข้อสำหรับผู้ขายทั้งหน้าเก่า-ใหม่ ที่ต้องการอยากรู้ว่าสินค้าไทยในช่วงนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง ในเล่มนี้ผมอยากจะขอเกริ่นสินค้าหมายเลข 1 ของบ้านเราก่อนให้ได้กระตุ้นกำลังใจดีๆแก่ผู้อ่านทุกๆท่าน กลุ่มสินค้าเหล่านั้นก็คือ “พลอย” สำหรับสินค้ากลุ่มนี้ขอบอกว่าเป็นกลุ่มที่ยังคงขายดีที่สุดเป็นเบอร์ 1 ในประเทศไทยเราเสมอมา ไม่เคยตกลงมาในระยะตลอดเวลา 8 ปีที่ผ่านมา หากคิดถึงสินค้า “พลอย” ทุกๆคนก็จะคิดถึงจังหวัดที่ค้าขายหลักๆก็คือ “จันทบุรี” รู้หรือไม่ว่า เว็บไซต์อีเบย์นั้นได้ทำการสร้างอาชีพให้แก่คนในพื้นที่นั้นจำนวนมากมาย สร้างรายได้มหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อ บางผู้ขายนั้นจากเดิมอยู่เพียงแค่บ้านเช่า จนในปัจจุบันเป็นเจ้าของตึกขนาดใหญ่มีความมั่งคั่งจากการค้าขายบนอีเบย์เท่า นั้น
ทำให้เว็บไซต์อีเบย์นั้นมีอิทธิพลในจังหวัดจันทบุรีเป็นอย่างยิ่ง จากการวิเคราะห์ผู้ขายจากทั่วโลกทั้งหมดสำหรับในกลุ่มของพลอยนั้นมีขายกัน ทั้งหมดจากสถิติในเดือนมกราคม 2555 นี้มีจำนวน 2185 คน และมีผู้ขายคนไทยที่มียอดขายอันดับที่ 1 สูงถึง 100,000+ ดอลล่าห์ต่อเดือนเลยทีเดียว หากใครอยากจะเข้าไปดูคนขายที่มียอดขายสูงที่สุด แวะเยี่ยมเยียนไปหาเขาได้ที่ # http://myworld.ebay.com/thaigemstore/ หวังว่าข้อมูลนี้จะทำให้ท่านได้รู้ว่าตลาดสินค้าเพียงแค่กลุ่มเดียวยังมีมูลค่าตลาดขนาดนี้
รายได้ที่เกิดจากการค้าขายบนอี เบย์นั้นมีโอกาสมากมายที่ผู้ขายคนไทยอย่างพวกเราสามารถทำได้ โดยการหาสินค้าที่เป็นยอดนิยมในบนอีเบย์ประกอบไปด้วยสินค้าดังต่อไปนี้
1. ผ้าไหมไทย กำไรผืนละ 200+ บาท
2. กางเกงมวยไทย กำไรตัวละ 300-500 บาทต่อ 1 ตัว
3. เสื้อนอน กำไรตัวละ 200+ บาท
4. สินค้าที่ทำจากมือ กำไรชิ้นละ 100-500 บาท
5. สินค้าเกี่ยวกับช้างไทยเรา กำไรชิ้นละ 100-300 บาท
อันนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่ คนไทยสามารถทำรายได้จากการขาย ยังมีลิสต์สินค้าไทยมากมายที่มีโอกาสจะสามารถทำตลาดได้ หากท่านใดสนใจอย่าพลาดตลาดอีเบย์เด็ดขาด โอกาสยังมีอยู่ครับ
ไว้พบกันในคอลั่มหน้าเราจะมีทริคและเทคนิคมาแชร์ให้กับผู้อ่านสำหรับ IT24Hrs เท่านั้นครับ!!
บทความโดย รัตนชัย ฐาปนะพงศ์ : ประธานชมรม ไทยอีเบย์ แห่งประเทศไทย : http://www.benzio.net/
ที่มา it24hrs.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น